ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว
ป้อนข้อมูลท่องเที่ยว
ถนนคนเดิน .. แพร่ เมืองงดงาม ที่นักเดินทางมองข้าม
เป้ใบ รองเท้าคู่ รีวิว

ดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จไปแล้ว ในเรื่องการจัดให้มี ถนนคนเดิน .. จะว่าไปแล้ว ก็คือ ตลาดนัดชุมชน นั้นเอง แต่อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อย ทีแตกต่างกันไปบ้าง และอาจจะเน้น ให้มีบรรยากาศของการท่องเที่ยว มากขึ้น

ผมเอง มีภาพในหัว คือ ไนท์พลาซ่า ที่เชียงใหม่ ซึ่งผมได้ไปเยือนครั้งแรก ในช่วงที่เรียนจบใหม่ ๆ (ราว ๆ 30 กว่าปีที่ผ่านมา) บรรยากาศ จะมีของน่ารัก ๆ ภายในชุมชน งานฝีมือที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทำให้ไม่ลังเลสักนิด ที่จะซื้อติดมือ ไปเป็นของฝากให้เพื่อน ๆ ทางกรุงเทพ

แต่ในช่วงหลัง ๆ การคมนาคมสะดวก หรือจะเรียกให้หรู ๆ ก็คงบอกว่า ระบบโลจิสติก เดี๋ยวนี้ดีมาก ดังนั้น สิ่งที่ผมพบเห็น ไม่ว่าจะเป็นไนท์พลาซ่า หรือถนนคนเดินที่ไหน ดูจะเหมือน ๆ กันหมด จนไม่รู้จะซื้ออะไร ฝากเพื่อนได้ เพราะตามร้านค้าใกล้บ้านก็มีเหมือน ๆ กับที่ผมเจอ

ถนนคนเดินที่เมืองแพร่ เมืองเล็ก ๆ เริ่มมีชีวิตชีวา เมื่ออาทิตย์เริ่มลับแสง แต่ลมหายใจ ไม่ยืดยาวมากมายเหมือนเมืองใหญ่ ๆ เพียงแค่สามทุ่มนิด ๆ ไฟก็เริ่มปิด ของก็เริ่มเก็บ แยกย้ายกันกลับบ้าน

สิ่งที่ผมประทับใจมาก บนถนนคนเดิน ที่เมืองแพร่ คงจะไม่พ้น .. ข้าวปัน แม่คำใส ช่อแฮ .. คนแพร่ คงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่สำหรับผม คนที่มาจากแดนไกลแล้ว คือสิ่งมหัศจรรย์ทีเดียว ใครอยากรู้ อะไร ยังไง ตามผมไปดูได้ครับ

(ภาพชุดนี้ มี noise เยอะหน่อยนะครับ เพราะผมดัน ISO ขึ้นไปที่ 6400 .. คิดซะว่า มีเป็นศิลป แห่งแสงสี ที่มีชีวิตชีวา ก็แล้วกันครับ)

ถนนคนเดิน ที่เมืองแพร่ จัดขึ้น บน ถนนเจริญเมือง ถนนสายเศรษฐกิจที่เก่าแก่ของเมืองนี้ ผมจำไม่ค่อยได้แล้วว่า ช่วงเวลาที่จัด จะเป็นวันเสาร์ต้นเดือน และกลางเดือนหรือเปล่า แต่วันที่ผมไป เป็นช่วงต้นเดือนธันวาคม แน่ ๆ

ผมมาถึงซุ้มประตู ทางเข้าถนนคนเดิน เป็นช่วงเวลาย่ำค่ำ เริ่มมีการเปิดไฟกันแล้ว ผู้คนเริ่มทะยอยกันมา โดยจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ ที่ปากทางเข้า .. อากาศช่วงนั้น เย็นกำลังดี สบาย ๆ ไม่ร้อน และไม่หนาวเกินไป เป็นช่วงที่น่าเดินเล่นมาก

ตรงหัวถนนเจริญเมือง ตัดกับถนนเลียบกำแพงเมืองด้านนอก มี Gingerbread House Gallery ตั้งอยู่ .. ผมเลื่อนการเดินทางมาแพร่ จากที่วางไว้ เพื่อให้ได้เข้าร่วมกับกิจกรรม ที่น่าสนใจ ที่จัดขึ้นพร้อม ๆ หลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ การสนทนาเรื่อง "เขาว่า เงี้ยว เป็น กบฏ ??" ซึ่งจะจัดบนอาคารนี้ครับ

ชั้นบน ของ Gingerbread House Gallery ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง สำหรับจัดแสดงงานศิลปะ วันนี้ เป็นการแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับ ทิศทาง การท่องเที่ยวของเมืองแพร่ .. มีเรื่องราวจัดแสดงไว้อย่างน่าสนใจ และมีเอกสารแจกอีกด้วย ... งานนี้ เข้าชม ได้ฟรี ครับ

เขาว่า เงี้ยว เป็น กบฏ ??? ... เป็นเสวนา แบบสบาย ๆ แต่จริงจัง ผมไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้ มานานพอสมควร .. น่าสนใจมากครับ ทั้งเนื้อหา และรูปแบบ การพูดคุยประวัติศาสตร์เมืองแพร่ โดยนักวิชาการที่เป็นคนแพร่ คนฟังก็เป็นคนแพร่ ที่ริมถนนสายสำคัญ ของเมืองแพร่

ความเรียบง่าย บรรยากาศที่เป็นกันเอง ผู้เข้าร่วมเสวนา บางท่านเป็นคุณครูสอนประวัติศาสตร์ในเมืองแพร่ และลูกศิษย์ของท่านก็กำลังนำเสนอ การเสวนา อยู่ด้านหน้า .. ประวัติศาสตร์ของชุมชน ได้รับการถกเถียง กันพอเป็นสังเขป .. มีคนแปลกหน้า ที่เป็นนักเดินทาง อย่างผม หนึ่งคน ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับ จากคนที่นี่ ไม่ได้เคอะเขินแต่ประการใด

ร่วมชั่วโมงนิด ๆ กับเสวนา ก็เข้าสู่โหมด ถนนคนเดิน ซึ่งก็เพียงเดินลงบันไดจากชั้นสอง ของ Gingerbread House Gallery ก็ถึงแล้วครับ

การผสมผสาน ระหว่างดนตรีพื้นบ้าน สล้อ ซอ ซึง กับดนตรีตะวันตก ของคนรุ่นใหม่ ของเมืองแพร่ สร้างบรรยากาศ ของถนนคนเดินได้เป็นอย่างดี ดูเหมือน น้อง ๆ เขาจะอัดเพลง จำหน่ายด้วย ผมมัวแต่สนใจเรื่องถ่ายรูป เลยไม่ได้ลงรายละเอียด

เสน่ห์ของถนนคนเดิน ในเมืองเล็ก ๆ คือ การมีส่วนร่วมกันของคนในเมืองนั้น ๆ ทำให้ผมรู้สึกว่า เป็นพื้นที่ ที่คนในชุมชน จะได้มาทำกิจกรรมสันทนาการ มากกว่า ที่จะมาค้าขาย กันอย่างจริงจัง .. พี่คนนี้ กำลังสาธิตการใช้เปล อย่างน่ารักเลยครับ

ส่วนหนึ่งของถนนคนเดิน ผู้จัดงาน ได้จัดทำเป็นนิทรรศการ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชุมชน คือ เมืองแพร่ ได้อย่างน่าสนใจ

สู้คะ .. รอยยิ้มแห่งมิตรภาพ มีอยู่ทั่วไป บนถนนคนเดิน แห่งนี้ ..

มีเรื่องฮา ๆ เรื่องการไปแพร่ในครั้งนี้ คือ ก่อนหน้าที่ผมจะไป ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้พูดไว้ว่า จะจ้าง บล๊อกเกอร์ มาเดินถ่ายรูปเมือง แล้วนำไปรีวิว .. แล้ว ผม ก็โผล่ ไปพอดี

ถ่ายพี่ด้วยสิ ..

น่ารักมากครับ .. ผมจด ๆ จ้อง ๆ ก็ไม่รู้จะถ่ายอะไรนะ สับปะรดแช่เย็น ปากซอยบ้านผมก็มี .. สักพัก ผมก็รู้แล้วละ ว่าผมจะถ่ายอะไร .. มิตรภาพ รอยยิ้ม แล้วก็ อัธยาศัย ไมตรี ที่ต้อนรับ คนแปลกหน้า อย่างผม ไงครับ

พี่คนนี้ ทำให้ผมนึกถึง พี่อีกคนหนึ่ง ที่ตลาดนัดจตุจักร ช่วงนั้น พี่สาวผมไปได้แผงฟรี จาก กทม. (ประมาณเมื่อ 30 ปีที่แล้วนะครับ เดี๋ยวนี้แผงประมาณนั้น เขาเช่ากันเดือนละหมื่นกว่า) แต่พี่สาวผม ก็จะไม่ค่อยมีเวลา ก็เลยจ้างให้ผมไปนั่งขายของให้ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เป็น แค่เข็ม ด้าย ที่ใช้เย็บผ้า เล็ก ๆ น้อย ๆ ขายทั้งวัน เงินที่ได้ ยังน้อยกว่าเงินที่พี่สาวให้ผมอีก (หาเรื่อง ให้เงินน้องชายใช้)

ข้าง ๆ ร้าน จะมีพี่ชายคนหนึ่ง ทำขลุ่ยจีน มาขาย ปกติพี่เขาทำงานรัฐวิสาหกิจ เงินเดือนไม่ธรรมดา แต่คงขี้เกียจอยู่บ้าน ก็เลยเอาขลุ่ยที่ทำเองมานั่งขาย ขายไป จิบเบียร์ไป มีความสุขมาก .. มี เป่าขลุ่ย สาธิตให้ดู .. หลายคนสนใจ หยุดดู ถามราคา บางคน พี่เขาดูหน้าแล้ว พูดว่า อย่าซื้อไปเลย อย่างคุณ ซื้อไป ก็เป่าไม่ได้หรอก

มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศบ้าง น้อยมาก .. ผมได้มีโอกาส คุยกับเจ้าของโรงแรมเล็ก ๆ บนถนนเจริญเมือง ในสายตาคนเดินทางอย่างผมแล้ว เป็นโรงแรมที่มีทำเลที่ตั้งที่ดีมาก คือ อยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวของเมืองทีเดียว จะว่าไปแล้ว โรงแรมนี้ ก็เป็นโรงแรมเก่าแก่ ที่ให้บริการพ่อค้าต่างเมือง คนมาทำธุระที่เมืองนี้ มายาวนาน แต่ที่โรงแรม ไม่ได้ปรับปรุงอะไรมากนัก เพราะมีนักท่องเที่ยวมาไม่มากนัก

แต่ก็มี นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ประเภทแบกเป้ มาเป็นระยะเหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่กลุ่มหลักของโรงแรม .. พี่เขาบอกว่า นักท่องเที่ยวที่มา ก็จะได้ข้อมูล จากการบอกต่อ ของนักท่องเที่ยวที่เคยมา

ร่อย ๆ ... ทั้งคุณพี่ และคุณน้อง เขายืนยัน ความอร่อย .. มะพร้าวน้ำหอม หวาน เย็น ชื่นใจ แต่อาจจะน้อยกว่า รอยยิ้ม นิดนึง 5555

บนถนนคนเดิน หลาย ๆ แห่ง มักมีกิจกรรมที่เด็ก ๆ ทั้งทึ่ง และตื่นเต้น อย่างเช่น การบิดลูกโป่ง .. คนเมืองใหญ่ อาจจะคุ้นเคย กับกิจกรรมนี้ ในร้านค้าขนาดใหญ่ ที่เราเรียกกันติดปากว่า ห้างสรรพสินค้าบ้าง ศูนย์การค้าบ้าง แต่ในเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ ผมยังเห็นแว้บ ๆ เมื่อตอนกลางวัน ว่าพี่ ๆ กลุ่มนี้ เปิดร้านเบเกอรี่ อยู่เลย พอตกค่ำ มาบิดลูกโป่ง ขายเด็ก ๆ ซะแล้ว

ซิ่นสวย ๆ + เสื้อพื้นเมือง ราคาสมเหตุสมผล ก็มีแขวนขายให้เห็น ร้านนี้ อาจจะเป็นมืออาชีพสักหน่อย แต่ก็ยังเป็นมืออาชีพ ระดับท้องถิ่น .. ผมเห็นแล้ว รู้สึกอยากเป็นผู้หญิงบ้าง มีอะไรสวย ๆ ให้แต่งตัวเยอะดี .. แต่เคยโดนลูกสาวดุเอาว่า เพิ่งมารู้จักตัวตนที่แท้จริงตอนนี้ หรือไง 5555

ถนนคนเดิน กับ ตลาดนัด บางที ผมว่า มันเป็นเรื่องเดียวกันนะ แต่ก็จะเป็นไรไป

ซุ้มถ่ายรูป มีจัดเป็นจุด ๆ ผมว่า ก็เป็น เสน่ห์อย่างหนึ่งของยุคสมัย ของ การแชะ แล้วก็แชร์ .. ไม่มีป้าย แล้วเพื่อนเราจะรู้ได้ยังไง ว่าเราได้มาถึง ถนนเจริญเมือง แล้ว จริงไหมครับ

จักรยานที่จอดเกะกะ ตรงมุมด้านซ้าย คือ จักรยานที่ผมใช้่ตลอดช่วงเวลา ที่ผมอยู่ในเมืองแพร่ จอดได้โดยไม่ต้องล๊อก ไม่แน่ใจว่า เพราะไม่มีขโมย หรือเพราะป้ายที่ติดหน้ารถ ว่าเป็นจักรยานบริการฟรี ของเทศบาล กันแน่

หลากสี แบบนี้ คงเป็นที่ชื่นชอบ ของคนชอบแชะ แม้แสงจะน้อยไปหน่อย หากเรายอมรับ noise คิดซะว่า เป็นศิลปะ ในการถ่ายรูปแบบหนึ่ง ก็แล้วกัน

อีกมุมหนึ่ง ของบรรยากาศถนนคนเดิน เมืองแพร่ ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นเองครับ ประมาณ 6 โมงเย็น พอสามทุ่ม ก็เก็บของกันหมดแล้วครับ .. คนจากเมืองใหญ่ อย่างผม เป็น งง เลยครับ

น้อง ๆ นักเรียน มาทำกิจกรรม ระดมทุนอะไรสักอย่าง บนถนนคนเดิน มี คุณครูมาดเข้ม มาคุม อีกต่างหาก 5555

โซนนี้ ของถนนคนเดิน จะมี ร้านค้ามืออาชีพ มากขึ้น แอบได้ยิน บอกว่า ขายไม่ค่อยดีเลย สงสัยนัดหน้า จะไม่มา หุ หุ

ประมาณกลาง ๆ ของถนนคนเดิน มีเวที น้อง ๆ ไม่แน่ใจว่า จากโรงเรียน หรือ จากโบสถ์ มา ขับร้องเพลงประสานเสียง เข้ากับบรรยากาศเดือนธันวา ที่อากาศเย็น และใกล้เทศกาลคริสต์มาส ที่จะมาถึง

อีกมุมหนึ่ง ของเวที ที่ น้อง ๆ มาขับกล่อม ด้วยเพลงประสานเสียง

ผมเดินจนเกือบจะสุดถนนคนเดิน ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ที่พัก ที่ผมพักอยู่ในช่วงไปเมืองแพร่ เห็นร้านคุณยายท่านนี้ ตอนแรก ก็มองผ่าน ๆ ไม่ได้สนใจอะไร แถมแอบนึกในใจว่า ร้านคุณยาย ดูมอมแมม จัง

แล้วผมก็วน ๆ อยู่แถวนั้นสักพัก แต่ตาก็คอยมองมาที่ร้านคุณยาย .. แปลกใจมาก ที่มีคนมายืนรอซื้อ ของกินที่คุณยายขาย ไม่ขาดระยะ และสั่งทีละ หลาย ๆ อันอีกด้วย

จากที่ยืนดูห่าง ๆ ผมก็เลยกระแซะเข้าไปใกล้ ๆ แล้วก็เลียบ ๆ เคียง ๆ สัมภาษณ์ผู้มายืนรอ ได้ข้อมูลว่า ข้าวปัน คุณยายคำใส ปกติขายที่หน้าวัดช่อแฮ อร่อยมากกกกกก

เวลามี ถนนคนเดิน คุณยายก็จะมาตั้งขายตรงนี้ทุกครั้ง ขาประจำ จะรู้ แล้วก็ตามมาอุดหนุน .. ผมยืนดู คุณยายคำใส ทำ ข้าวปัน ตามระบบ แม้ว่าจะมีออเดอร์มากเพียงไร ก็ตาม

พอเว้นช่วงว่างแป๊บนึง ผมก็เลยแทรก เข้าไปสั่งบ้าง มี 2 รส จะเอารสอะไรดี ระหว่างรสพริก กับรสธรรมดา .. ถามคุณยาย คำใส ดีกว่า .. คุณยายคำใสบอกว่า ถ้าไม่เคยกินมาก่อน ก็ลองรสธรรมดา ก่อนดีกว่า ... ผมก็เลยสั่ง 2 ชุด เลยครับ กลิ่นหอม ชวนน้ำลายไหลเลยครับ

คุณยายคำใส ย้ำว่า ให้รีบกิน ถ้าเย็นแล้ว จะอร่อยน้อยลง ผมก็ทำตามที่คุณยายสั่งไว้ คือ พอเข้าห้องพัก ก็กินทันที อร่อยมากกกกก จะบอกว่าเหมือนอะไรดีล๊ะ ... นึกไม่ออก ว่าเหมือนอะไร .. พอไปเที่ยว นครพนม ดูเหมือนจะคล้าย ๆ ขนมเบื้องญวน แต่ก็ไม่เหมือนกันมาก ตัวแป้งคล้าย ๆ แต่ไส้ไม่ใช่

เอาเป็นว่า ใครไปเมืองแพร่ ต้องแวะไปชิมให้ได้ ที่ประจำ คือ หน้าวัดช่อแฮ ลืมถามไปว่า ขายทุกวันหรือเปล่า แล้วก็ขายตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง .. ใครรู้ ช่วยส่งเสียงมาหน่อยครับ

สุดท้าย ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าที่พัก คือ พี่ชายคนนี้ เลยครับ พี่เขาขายแบบสนุกมาก ยิ้มหล่ออีกต่างหาก ร้านพี่เขาอยู่ปากซอยที่พักของผม ... ผมหมดสภาพ เกินกว่าจะดูอะไรแล้ว .. ตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น จนตะวันลับไปนานแล้ว ผมตะลอน ๆ ๆ หมดแรงจริงจังมากครับ

ขอจบเรื่อง ถนนคนเดิน ที่เมืองแพร่ แค่นี้ก่อนนะครับ แต่ยังมีเรื่องเมืองแพร่ อีกเพียบ รอติดตามต่อนะครับ


รีวิวอื่น ๆ ของ เป้ใบ รองเท้าคู่

Booking.com

หน้าแรก | ท่องเที่ยวใน กทม. | ท่องเที่ยวในภาคเหนือ | ท่องเที่ยวในภาคกลาง | ท่องเที่ยวในภาคอีสาน | ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก | ท่องเที่ยวในภาคใต้ | ลงโฆษณา | ติดต่อเรา