ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว
ป้อนข้อมูลท่องเที่ยว
ถนนคนเดิน
นครพนม เมืองสงบ ริมฝั่งโขง
เป้ใบ รองเท้าคู่ รีวิว

ถนนคนเดินในเมืองเล็ก ๆ อย่างนครพนม มีความอบอุ่น เรียบง่าย เป็นกันเอง เหมือนกับเป็นสโมสร ที่คนในชุมชนได้มาพบปะสังสรรค์กัน คนแปลกหน้าอย่างผม มีไม่มากนัก พอเดินหิ้วกล้อง ถ่ายรูปเจาะแจ๊ะไปเรื่อย หลาย ๆ คนเลยให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเลยครับ

ก่อนหน้าที่จะเดินบน ... ถนนคนเดิน ... ซึ่งเป็นช่วงหัวค่ำ ผมได้ออกจาก the river แต่เช้า ตะลอนขี่จักรยานไปทั่ว ตั้งแต่ตลาดเช้า จวนผู้ว่าฯ(หลังเก่า) วัดนักบุญที่หนองแสง แล้วย้อนไปบ้านลุงโฮ ที่อยู่นอกเมืองอีกฟากฝั่งของเมือง พอตะวันเริ่มลับฟ้า ก็ปั่นมาที่นี่เลย

เพื่อน ๆ ตามไปดูกันเลยดีกว่า ว่า ถนนคนเดินที่นี่ เหมือน หรือ ต่างกับที่อื่น อย่างไร ... ช่วงท้ายอาจจะห้วน ๆ นิดนึง ด้วยสาเหตุ 2 ประการ คือ ผมปวดฉี่ และเริ่มหิวข้าว

ถนนคนเดิน ... ที่นครพนม คือ ถนนสายเลียบฝั่งโขง โดยเริ่มตั้งแต่ท่าเรือท่องเที่ยว ไปสิ้นสุดที่ หอนาฬิกาประวัติศาสตร์ เป็นระยะทางไม่ยาวนัก เหมาะกับเมืองเล็ก ๆ ผู้คนไม่มากนัก

ผมจอดจักรยาน ล่ามโซ่ไว้เป็นอย่างดี ติดกับเสาไฟ หน้าท่าเรือท่องเที่ยว แม้ว่าคนที่นี่ ยืนยันเรื่องความปลอดภัย แต่ด้วยความเป็นเมืองผ่าน ดังนั้น ของเล็ก ๆ ที่เคลื่อนย้ายง่าย อย่างจักรยาน ก็อาจจะผ่านไปต่างประเทศได้

และทันที ที่เดินเข้าสู่ถนนคนเดิน ก็เจอของกินเยอะพอสมควร อยากจะเรียกเป็น ถนนคนกิน น่าจะได้

มันเผา กับอากาศหนาว ดูจะเป็นของคู่กัน ผมอยากกิน แต่กลัวมือจะเลอะ เพราะต้องถ่ายรูป นี่เป็นอุปสรรคใหญ่มาก สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบถ่ายรูป และเดินทางคนเดียวอย่างผม

ร้านขายน้ำ ปกติก็ขายตรงนี้อยู่แล้ว เลยเป็นผลพลอยได้ เมื่อมีการเปิดเป็นถนนคนเดิน

ข้าวจี่ กิ๊บเก๋ มากครับ ขายดีกว่าร้านอื่น ๆ เพียงเพราะ เป็น รูปหัวใจ

เสื้อกันหนาว ราคาถูกมาก มีทั้งมือใหม่หัดขับ มือสองช่ำชอง มือสาม มือสี่ มือห้า

ร้านนี้ปูเสื่อขายกับถนนเลยครับ ... ลายสวย ๆ แต่คงไม่ใช่ทอมือเป็นแน่ ลืมถามไปว่า ไม่มี ผ้าขาวม้าลาว บ้างหรือ

น้อง ๆ กลุ่มนี้ เดินหาทุน ทำโครงการอะไรสักอย่าง น่ารักดีครับ

น้องหน้าใส ดู ๆ แล้ว น้องเขาคงไม่ซื้อผ้าถุงไปนุ่งเอง คงจะซื้อไปฝากคุณแม่ที่บ้านมากกว่า หรือเพื่อน ๆ ว่าไงครับ

ผมว่า .. ข้าวจี่ .. น่าจะเป็น อาหารประจำจังหวัดนครพนม แน่ ๆ เลยครับ เดินไปทางไหน มีไปทั่ว แถมประยุกต์กันหลากหลายมาก มีรสทูน่า รสปลาหมึก รสข้าวโพด รสสาหร่าย ... แต่ผมชอบรสดั้งเดิมมากกว่า เพื่อน ๆ ละครับ ชอบรสอะไร ????

ไม่รู้ว่า ผมอยู่แต่หน้าคอมฯ มากไปหรือเปล่า เลยพึ่งจะมาพบนวตกรรมทางอาหารที่พิสดาร ... องุ่นเสียบไม้เคลือบช้อกฯ ... เพื่อน ๆ ไม่ต้องหัวเราะกับความเชยของผมเลยนะ

ที่จริง ถนนคนกิน เอ๊ย ถนนคนเดิน มีของขายหลากหลายพอสมควร แต่ของบางอย่าง ผมเห็นชินตา ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ แต่ของกิน ล้วนแล้วแต่ที่ผมชอบ ก็เลยได้รูปมาเยอะหน่อยครับ

ปูเสื่อขายของ แนวนี้ มีให้เห็นทั่วไป ของกระจุกกระจิก น่ารัก ๆ เหมาะกับวัยรุ่น ... วัยชราแบบผม ก็เลยแค่มองผ่าน ๆ

เด็ก ๆ น่ารักครับ มา ช่วยแม่ปิ้งข้าวโพดขาย ... คุณแม่ยืนกำกับอยู่ข้าง ๆ ต้องขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อน คุณแม่ย้ำแล้ว ย้ำอีก ถ้าไม่สวย ห้ามนำมาโพส ... แซวเล่นนะครับคุณแม่

เมืองเล็ก ๆ ผู้คนคุ้นเคยกัน ยืนถ่ายรูปแป๊บเดียว เพื่อน ๆ ของน้อง เดินผ่านไป ทักทายกันตลอด ... เสน่ห์ของเมืองเล็กเลยครับ

ถนนเล็ก ๆ ใน เมืองเล็ก ๆ ความงดงาม ที่ยังคง ดำรงอยู่

ผมพยายามหามุมสวย ๆ ของ หอนาฬิกาประวัติศาสตร์ แห่งนี้ ซึ่งจริง ๆ มุมสวย ๆ มีมาก แต่ฝีมือคนถ่ายคงไม่ถึงมากกว่า

ผมนั่งขัดสมาธิ ริมถนนตรงนี้เลย แล้วก็เล็งกล้อง พยายาม ถ่ายแซะ ๆ ไปเรื่อย นี่ถ้าเป็นยุคก่อน ผมคง โดนข้อหา แอบถ่ายใต้กระโปรงไปแล้ว

ไม่แน่ใจว่า เพราะ สาว ๆ ชอบมาเดิน ทำให้มีของที่เกี่ยวข้องกับสาว ๆ เยอะแยะ หรือว่า เพราะมีของเยอะแยะเกี่ยวกับสาว ๆ เลยทำให้สาว ๆ ชอบมาเดิน ... ใครรู้บ้าง วานบอกกันหน่อยครับ

พี่คนนี้ ดูมี ความสุขกันการทำอาหารมาก ปราณีตจริง ๆ ทำให้ผมนึกถึงซีรี่เกาหลี เกี่ยวกับการทำอาหารเลยครับ ผมยังจำมาเลียนแบบ ท่าโรยเกลือลงอาหาร ด้วยนิ้ว 3 นิ้ว อย่างละเมียดละไม

นี่ก็อร่อยอีก ... สาว ๆ เดินกินกันอย่างไม่กลัวอ้วนเลย

ปีที่แล้ว ผมไปที่แม่วงก์ ก่อนเข้าอุทยาน เราแวะซื้อของกินกันที่ตลาด ก็จะเจอพวกเสียบไม้แนว ๆ นี้ แม่ค้าที่นั่นคุยให้ฟังว่า เมื่อก่อนก็เสียบไม้เอง แต่ตอนหลังใช้วิธีสั่งจาก กทม. แล้วมาปิ้งขายเลย ไม่เหนื่อยมาก แล้วก็ขายดีด้วย ... ก็เลยไม่แน่ใจว่า ที่นครพนม จะใช้สูตรเดียวกับที่โน่น หรือเปล่า

หมูปิ้งเสียบไม้แบบนี้ ก็เหมือนกัน เห็นไม้แล้ว คุ้น ๆ หน้า ในแมคโคร แต่ที่เสียบไม้ ไม่ค่อยคุ้นเท่าไร

แถวบ้านผมเรียก ไข่หงส์ แต่แม่ผมบอกว่า เมื่อก่อนไม่ได้เรียกแบบนี้ ชื่อ เป็นสัตว์เลื้อยคลาน ลงบ่อปลาบ่อไหน เจ้าของบ่อหมดตัวบ่อนั้น

หน้าตาสวยงาม น่ากินมากครับ ผักสด ๆ ผมเห็นที่แปลง เมื่อวานนี้ แถวชานเมืองนี่เองครับ

สมกับเป็นถนนคนกิน จริง ๆ ครับ ผมเห็นคุณสาว ๆ แวะตลอดทาง ไม่อ้วนก็ให้รู้ไป

วัฒนธรรมการกิน ไม่มีพรมแดนจริง ๆ เพื่อน ๆ คิดแบบผมไหมครับ

ร้านแนวผ้าถุง หรือ สินค้าในชุมชน มีไม่กี่ร้าน แต่ผมชอบถ่ายรูปร้านแนวนี้ ก็เลยดูเหมือนมีหลายร้าน ... สร้างภาพ หุ หุ

บรรยากาศทั่ว ๆ ไป จะออกแนวนี้ มีสินค้าไม่มากนัก ปูเสื่อกันง่าย ๆ ไฟสักดวง พอส่องให้เห็น

ทองม้วนสด ... ผมเคยไปกินที่บ้านเพ นานแล้ว ยังรู้สึกอยากจะขายบ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่ความคิด จนเดี๋ยวนี้ ไปที่ไหน ก็เห็นไปทั่ว

ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ดูแปลกตา ไม่เคยเห็นมาก่อน คนที่ยืนรอ ก็ยังคงเป็นสาว ๆ อยู่นั่นเอง อ้วนไม่กลัว กลัวไม่อ้วน

ตอนเป็นนิสิต เวลามีงานเกษตรแฟร์ เราจะคิดขายโน่น นี่ นั่น ไปเรื่อย แล้วเราก็ไปติดต่อมาขายกัน กะว่า จะมีกำไร เพื่อเอาไว้ทำกิจกรรมกัน พอดี มีหน้าร้านว่างอยู่ ก็เลยเอาเตาแบบนี้ แล้วก็ซื้อลูกชิ้นมาเสียบไม้ ปิ้งขาย กะว่าจะเอาแบบฮา ๆ ... พอหมดงาน สรุปรายได้ ปรากฏว่า ยอดกำไร ลูกชิ้นปิ้ง แซงหน้า สินค้าหลัก ที่เราคิดไว้ไปถึงไหน ๆ ... ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่

เห็นสาว ๆ กำลังมุง เสริมความงามให้เล็บ ก็เลยโผล่หน้า เข้าไปขอเก็บภาพสักหน่อย สาว ๆ ก็เต็มใจ โพสท่าให้อย่างเต็มที่

ของกินอีกละ ... ก็ถนนคนกิน นี่นา

คิดว่าตัวเอง เบื่อแล้ว กับภาพหอนาฬิกาประวัติศาสตร์แห่งนี้ แต่ก็ อดใจไม่ได้ ต้องขออีกสักแซะ ก่อนจะเดินกลับ

คุณป้ามีสมาธิมาก ในการหยอด ไข่ ใส่ในช่อง โดยมี คุณลูกสาว นั่งช่วยอยู่ข้าง ๆ ... จะว่าไปแล้ว นั่งสมาธิ ไม่ต้องไปนั่งที่วัดก็ได้ ริมถนนคนเดิน ก็สามารถ

น่ากินไหมครับ ... ส่วนตัวกระผ๊ม ขอยกธงขาว อายุมากแล้ว คงต้องระวัง เรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ

เสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่ถนนคนเดิน มีให้เห็น คือ น้อง ๆ มาปูผ้า นำเสนอความสามารถพิเศษของตนเอง ... นานมากแล้ว ที่ไนท์พลาซ่าที่เชียงใหม่ ผมเคยได้ กำไลหญ้าถัก มาฝากเพื่อน ๆ ที่ กทม. แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป จากถักหญ้า มาเป็นร้อยพลาสติกแทน

สินค้าทำมือ ร้อยเป็น สร้อยคอ สร้อยขอมือ และอื่น ๆ ได้ตามใจ ที่อยากจะให้ร้อย ... น่ารัก ทั้งคนร้อย และของที่วางตรงหน้าครับ

ผ้าพันคอสวย ๆ กับอากาศหนาว ๆ ของคู่กัน

ตุ๊กตากองใหญ่ ดึงดูดเด็กเล็ก เด็๋กโต รวมทั้งคุณแม่ที่ยังเด็กอยู่ หุ หุ แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย

ตบท้าย ก่อนเก็บกล้องลงกระเป๋า ผมพยายามมองหาที่ฉิ้งฉ่อง ซึ่งเริ่มจะคุกคามหนักหนาแล้ว จนในที่สุด เห็นมีร้านน้องนั่งดริ้งค์อยู่ร้านหนึ่ง ก็เลยตรงรี่เข้าไป ... มาม่าซัง ผู้มีอัธยาศัย ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แม้เมื่อผมบอกว่า ขอเข้าห้องน้ำเท่านั้น ... ขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ได้ถ่ายรูปมาม่าซังคนสวยมาด้วย แต่ขอเก็บไว้ดูคนเดียวนะครับ

หลังจากนั้น ก็เดินลิ่ว ๆ กลับมาที่จักรยาน ตอนนี้ สองทุ่มเกือบครึ่งแล้ว ท้องร้องจ๊อก ๆ ยังนึกไม่ออกว่าจะไปกินอะไรดี ... แล้วก็สรุปที่ ร้านข้าวต้ม ตรงใกล้ ๆ ด่านตรวจคนเข้าเมือง กับทุกอย่างจานละ 15 บาท ข้ามต้มชามละ 3 บาท ผมสั่งมา 3 อย่าง แล้วก็ข้าวต้ม 4 ชาม พุงกางไปเลย

น้าเจ้าของร้าน เดินออกมาขอโทษ ว่าอาหารมีไม่กี่อย่าง เพราะใกล้จะปิดร้านแล้ว ผมก็เลยบอกไปว่า ที่เหลืออยู่ เป็นของชอบของผมจากนั้น ผมก็ขี่จักรยานเรื่อยเปื่อย กลับ the river หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน คืนที่สามแล้ว ที่ผมนอนเตียงนุ่ม ๆ บรรยากาศดี ๆ พรุ่งนี้เช้า ค่อยเจอกันใหม่ครับ ทั้งนั้น ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ

จากนั้น ผมก็ขี่จักรยานเรื่อยเปื่อย กลับ the river หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน คืนที่สามแล้ว ที่ผมนอนเตียงนุ่ม ๆ บรรยากาศดี ๆ พรุ่งนี้เช้า ค่อยเจอกันใหม่ครับ วันนี้ขอจบแค่นี้ครับ


รีวิวอื่น ๆ ของ เป้ใบ รองเท้าคู่

Booking.com

หน้าแรก | ท่องเที่ยวใน กทม. | ท่องเที่ยวในภาคเหนือ | ท่องเที่ยวในภาคกลาง | ท่องเที่ยวในภาคอีสาน | ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก | ท่องเที่ยวในภาคใต้ | ลงโฆษณา | ติดต่อเรา