ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว
ป้อนข้อมูลท่องเที่ยว
เช้า ยัน เย็น ที่บางปะอิน (ตอน 1/3)
เป้ใบ รองเท้าคู่ รีวิว

กรมอุตุ บอกว่า ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม เข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการ วันนี้ ผมก็ไม่รอช้า ตื่นแต่เช้า ตรงไปยัง บางปะอิน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผม แค่ 30 กิโลเมตรเท่านั้น

แทบไม่น่าเชื่อ ว่าครั้งสุดท้าย ที่ผมไปบางปะอิน คือ เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว ตัวตลาด เหมือนจะเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย แต่ พระราชวังบางปะอิน เหมือนจะเปลี่ยนไปมาก ผมดูจากรีวิวหลายแห่งก่อนไป ผมก็ยัง งง งง ว่า พระราชวังบางปะอินที่ผมเคยเห็นมา ไม่ใช่อย่างที่เห็นในรูป แต่เมื่อไปพบจริง ๆ ก็เหมือนอย่างในรีวิว หลายอย่างเปลี่ยนไปมาก ถึงมากที่สุด

วันนี้ ที่ผมไปพระราชวังบางปะอิน จะว่าไป ผมก็มีเรื่องที่ตั้งเป้าไว้ในใจอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่ นึกจะไป ก็ไปอย่างงั้นเอง .. อย่างแรก คือ ผมถอยเลนส์ไวด์ 10-18 มา ก็เลยจะลองของสักหน่อย แต่เอาเข้าจริง ๆ ผมก็รู้ว่า มันไม่ใช่ตัวตนผมเลย แล้วผมก็ถอดเก็บ แล้วก็งัดเอาเลนส์ตัวถนัดของผม 18-135 จับ cpl ใส่เข้า เดิน ถ่ายรูปทั้งวัน เพลิดเพลิน เหมือนสั่งได้ดังใจ

อย่างที่สอง เหมือนมีอะไรอยู่ในใจ ที่บอกไม่ถูก ว่าคืออะไร มันเหมือนสะสมมาหลาย ๆ อย่าง ที่เราได้อ่านมา ได้เห็นมา เช่น เรื่อง วิกฤติการณ์วังหน้า วิกฤติการณ์เงี้ยวเมืองแพร่ การสถาปนาเจ้าเมืองน่าน ... ประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ... การไปเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวแนวนี้ เวลาลืมตาดู เราจะไม่ค่อยเห็นอะไร แต่พอเราหลับตาดู ภาพต่าง ๆ กลับเด่นชัด เพื่อน ๆ ว่าอย่างนั้นไหมครับ

อย่างที่สาม ที่สี่ ที่ห้า มีอยู่เหมือนกัน แต่อธิยายไม่ได้

ตามไปดูว่า วันนี้ ผมได้อะไรมากฝากเพื่อน ๆ บ้าง แล้ว เชื่อมโยง คลี่คลาย อย่างไรบ้าง กับเรื่องที่ผม สะสมอยู่ในใจ ตามไปเลยนะครับ

เพราะออกจากบ้านแต่เช้า กาแฟยังไม่ได้ดื่ม ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน เริ่มหิว แต่เห็น ท้องฟ้าสวย ตะวันไม่เคยรอใคร ผมเลยถาม รปภ. ที่ลานจอดรถ หน้าพระราชวังบางปะอิน ว่าแถวนี้มีอะไรกินบ้าง

พี่เขาชี้ไปที่เต้นท์ด้านสุดโน้น ผมก็ไม่รอช้า ตรงดิ่งไปเลยครับ มีนักท่องเที่ยวเกือบสิบคน นั่งรอ กระเพราไก่ไข่ดาว ผมเลยถามแม่ค้าหน้าใส ว่าอะไร ที่สั่งแล้วได้เร็วที่สุด .. ก๋วยเตี๋ยวไงจ๊ะ

ผมชะโงกหน้าดู หม้อก๋วยเตี๋ยว ถามว่า น้ำเดือดหรือยัง แม่ค้าหัวเราะ บอกว่า เดือดตั้งแต่ตีสี่แล้ว

แป๊บเดียว ก๋วยเตี๋ยวเป็ด 2 ชาม ก็หายเข้าไปในท้องผม ไม่รอช้า เดินลงไปที่ริมน้ำ ข้าง ๆ เต้นท์อาหารนั่นเองครับ

ผมไม่คุ้นเคยกับ เลนส์ 10-18 พร้อมกับ cpl พยายามมองหามุม เรือลำนี้ ก็เป็นเหยื่อของผมทันที ... เท่าที่ผมเห็น เรือไม้ นับวันก็หายหน้าหายตาไป เรือพลาสติก มาแทนที่ แม้จะพายยากกว่า ก็ตาม

ฟ้ายามเช้า เหนือเกาะบางปะอิน ประภาคารดูโดดเด่น ฟากโน้น คือ แม่น้ำเจ้าพระยา ฟากนี้ คือ คลอง ไม่รู้ว่าคลองชื่ออะไร

เรือหางยาว จ้าวความเร็วทุกคุ้งน้ำ ผมเคยได้นั่งเรือหางยาว 2 ตอน ไปหาพี่สาว ซึ่งเป็นครูอยู่คลอง 15 สมัยนานแล้ว ตื่นเต้นมาก เหมือนจะบินได้เลยครับ

หลายคนอาจจะ สงสัยว่า ทำไม เราจึงเรียกว่า เรือหางยาว ผมก็เลย ถ่ายรูป ส่วนของหาง มาให้ดู .. ยาวประมาณนี้ เพื่อน ๆ ว่ายาวพอ ที่จะเรียกว่า หางยาว ไหมครับ

พี่คนหนึ่ง นั่งจิบน้ำ อยู่คนเดียวตรงบันไดตลิ่ง โดยมี เจ้าสองล้อ จอดอยู่ข้าง ๆ ก็เลยเข้าไปสัมภาษณ์กันสักหน่อย .. พี่เขาอยู่ที่เชียงราก ไกลจากที่นี่เหมือนกัน พี่เขาจะขี่ทุก ๆ วันหยุด เป็นการออกกำลังกาย ขี่มาถึง ก็จะนั่งจิบน้ำ ชมวิวตรงนี้สักพัก เดี๋ยวก็จะขี่กลับ น่าสนใจนะครับ

เดินจากลานจอดรถไปทางประตูทางเข้าพระราชวัง จะผ่าน ร้านที่มีสีสรร หลายร้าน ประมาณนี้ครับ

อีกร้านที่ผมชอบ คงจะเป็นแนว ผ้านุ่ง ไม่แน่ใจว่า ขายเป็นที่ระลึก หรือ ขายเพื่อใส่ ในการเดินชมพระราชวัง (โปรดแต่งกายสุภาพ)

ตุ๊ก ๆ ที่นี่ หล่อกว่าแถว ๆ บ้านผม เป็นเพราะอุปทาน หรือ หล่อจริง ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกัน

ใครอยากจะมาเที่ยว พระราชวังบางปะอิน ก็ตามนี้เลยครับ แต่วันที่ผมไป เขาเปิดแค่ครึ่งวัน เพราะช่วงบ่าย พระเทพฯ เสด็จมาถวายกฐิน ที่วัดนิเวศน์ฯ โปรแกรมผม ก็เลยหายไปครึ่งวัน ความละเมียดละไม หายไปครึ่งหนึ่ง

ยังไม่ทันซื้อบัตรเข้าชม ก็เหลือบไปเห็น มุมสวย ไม่เก็บภาพ ไม่ได้แล้ว แต่สิ่งนี้ คืออะไร ไม่รู้เรื่องเลย

เสาไฟฟ้าสวยดี ใต้ร่มไม้สูงใหญ่ ร่มครึ้มดีครับ

ต้นไม้สูงใหญ่ ทันที ที่ย่างเท้าเข้าไปสู่พระราชวัง ให้รู้สึกร่มเย็น แม้แดดจะจัดแต่เช้าก็ตาม บางคน เลือกที่จะนั่งใต้ร่มไม้ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า เขาคือใคร อาจจะเป็น ไกด์ ที่ลูกทัวร์อยากจะเดินเล่นเอง ก็ได้

จากประตูพระราชวัง มองไปด้านซ้าย ซูมสุดกระบอก ก็ได้หลังคาโบสถ์ วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ ซึ่งมีนั่งร้านเกะกะ ๆ ตามภาพ มาฝากเพื่อน ๆ เดี๋ยวออกจากวัง ค่อยไปเข้าวัด

ผมนึกถึง คนที่คิดจะปลูกบ้านหลังที่สอง น่าจะมีเหตุผลหลาย ๆ อย่าง แต่ที่แน่ ๆ จะต้องมีเงินมากพอ ที่จะรองรับ เหตุผล ที่คิด .. ผมเอง จริง ๆ เรียนวิทยาศาสตร์ แต่ชอบอ่านประวัติศาสตร์ (แบบฉาบฉวย) เลยไปลงวิชาเลือก ชื่อวิชาว่า ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เราตกลงกันว่า เราจะจับช่วง ปี พ.ศ.2411 และมาจบที่ พ.ศ.2500

และพระราชวังบางปะอิน ก็สร้างขึ้น (อีกครั้ง) ในช่วงเวลานั้น .. การไปเดินถ่ายรูปครั้งนี้ เหมือนเป็นการทบทวน ประวัติศาสตร์แบบฉาบฉวยของผม อีกครั้งหนึ่ง

ในภาพ คือ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ศิลปะแบบคอรินเทียนออร์เดอร์

ร.5 (ขออภัย ที่เขียนย่อ ๆ แบบนี้ เพื่อเป็นการสื่อสารแบบง่าย ๆ และสั้น ๆ) โปรดเกล้าให้สร้าง ในปี 2415 หลังจาก พระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 1 (2411) เป็นเวลา 4 ปี และก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 เพียง 1 ปี (2416)

ตุ๊กตาปูนปั้น หนึ่งในตุ๊กตาหลาย ๆ ตัวบนสะพานตุ๊กตา บนถนนนารายณ์ สร้างเลียนแบบสะพานไทเบอร์ ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี่ ตุ๊กตาเหล่านี้ สั่งมาจากยุโรป

เหล่าตุ๊กตา บนราว สะพานตุ๊กตา

หัวสะพาน ที่สะพานตุ๊กตา มองแบบผ่าน ๆ ผมรู้สึกคุ้น ๆ ว่าเคยเห็น ลักษณะงานแบบนี้ ตามราวสะพานในกรุงเทพ ที่สร้างในยุค ร.5

ประตูเทวราชครรไล .. เป็นจุดเชื่อมจากฝ่ายหน้า มายังฝ่ายใน โดยสะพานเสาวรส

จริง ๆ อยากเขียนอะไร เยอะแยะ แต่รู้สึกว่า เขียนยากเขียนเย็นมาก ซึ่งส่วนใหญ่ ดูเป็น คำถามค้างคาใจอยู่ แต่สภาวะสังคมบางครั้งก็ไม่เอื้อ ให้เราเขียน ให้เราคิด ให้เราถาม ได้ แม้จะเป็นเรื่องพื้น ๆ

ความจำของผมอาจไม่ชัดเจน แจ่มแจ้ง แต่เหมือนกับว่า ตอนที่มาที่นี่ สมัยยังเป็นนักเรียน ที่นี่ไม่ได้งดงาม อย่างที่เห็นอยู่ ณ เวลานี้

ผมพยายามนึกถึง หินอ่อนแกะสลัก จะมีความงดงาม กว่างานปูนปั้น เพียงใด เพราะในชีวิตผม ก็เหมือนกับกบตัวหนึ่ง ที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่มีกะลาครอบอีกที แต่เท่าที่เห็น ก็ดูจะสวยงามดี

นึกในใจว่า งานศิลป กับงานโป๊ มันต่างกันตรงไหน ถ้ายึดตามกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ก็จะบอกว่า ห้ามเผยแพร่ภาพ ที่เห็นหัวนม ซึ่งแน่นอน ภาพนี้ คงจะเผยแพร่ไม่เด็ดขาดเลย

เรื่องเกี่ยวกับ เทพธิดา ของตะวันตก หรือ จะเป็นนางฟ้า ของตะวันออก ผมไม่รู้เรื่อง ทำไม ผมไม่อยากรู้บ้างก็ไม่รู้ .. ผมว่า คนเรา คงไม่จำเป็นต้องรู้ไปทุกเรื่อง แต่ที่แน่ ๆ ช่วงที่ผมถ่ายรูป รูปนี้ อากาศขมุกขมัวยังไงไม่รู้ แล้วที่ถ่ายมุมเงยแบบนี้ เพราะอยากตัดฉากรก ๆ ก็เลยได้แต่เส้นสายของกระโปรงแล้วก็ผ้ากันเปื้อน

พระที่นั่งทิพย์อาสน์ .. อีกสักมุม

ก่อนมาที่นี่ ผมเลาะดูข้อมูลจากโลกไซเบอร์มาบ้าง รู้สึกมีภาพสวย ๆ เยอะไปหมด ก็เลย ลองหามุมอื่น ดูบ้าง ผมเลยเดินตัดออกไปจากถนนหลักที่ร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่ ไปเดินกลางแดด อยู่อีกฟากหนึ่งของสนาม ก็เลยได้ภาพนี้มาฝากครับ

กระถางสีสดใส กับ เฟื่องฟ้าสีสด อีกเช่นกัน ต้นนิดเดียว ดอกเต็มเลย ผิดกับ ที่บ้านผม เป็นเฟื่องฟ้า พันธุ์ดูใบ

เสาไฟฟ้า เหล็กหล่อ สวยดี ผมไม่แน่ใจว่า เป็นของเก่าดั้งเดิม ตั้งแต่สมัย ร.5 หรือเพิ่งมาเพิ่มเติมภายหลัง .. คงจะแบบที่ ดร.อำคา ที่ทุ่งกุลา เคยบอกผม ตอนที่ผมไปเที่ยวกู่กาสิงห์ ว่าหินที่มีสีต่างกันมาก ๆ ที่วางอยู่ในกู่กาสิงห์ ก็เพื่อจะให้รู้ว่า หินก้อนนั้น เป็นหินที่นำมาเสริมใหม่ ไม่ใช่ ของเก่าดั้งเดิม ... แต่ที่นี่ ทุกอย่างกลืนกันไปหมด แต่ก็สวยดี

อีกมุมหนึ่ง ของ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ไม่ทราบว่า มีใครสงสัยเหมือนผมบ้างหรือเปล่าว่า ยุวกษัตริย์ วัย 19 พรรษา ทำไม ถึงเลือกสถาปัตย์กรรม แบบนี้ ณ เกาะกลางทุ่งนาชุ่มน้ำ อันกว้างใหญ่ไพศาล แทนที่จะเป็น สถาปัตย์กรรมอื่น ๆ

การอธิบายว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจากรัชกาลก่อน ใน การรุกทางสังคม คนอ่านประวัติศาสตร์แบบผิว ๆ อย่างผม ก็นึกอะไรไม่ออกไปกว่านี้

แม้แต่นิยาย เรื่อง ทวิภพ ของทมยันตี ก็ยังมีเวอร์ชั่นตีความใหม่ ที่นำมาสร้างหนัง ที่บางคน บอกว่า ดูไม่รู้เรื่อง

ด้านข้างของ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ก่อนปี 2411 ร.5 ได้ทรงเป็นผู้ดูแล พระคลังมหาสมบัติ .. พระที่นั่งองค์นี้ สร้างในปี 2416 .. ในขณะที่ วิกฤตการณ์วังหน้า เกิดในช่วงปี 2417-18 ซึ่งวิกฤติการณ์นี้ สาเหตุสำคัญมาจาก การปรับปรุงระบบภาษี มารวมที่ศูนย์กลาง

เหตุการณ์ที่เรียงร้อยกัน ผมไม่แน่ใจว่า เป็นจังหวะก้าวที่ต้องเป็นไป หรือ อยู่ในขั้นตอน ที่ต้องการให้เป็นไป ??

ความงดงาม ของ ประตูเทวราชครรไล

กระถางบัวสวย ๆ

กระโจมแตร .. ชื่อก็บอกชัดเจนเลยครับ เป็นสถานที่ ที่คนแตร จะมาเป่า ณ ที่ตรงนี้

ซุ้มไม้เลื้อย หน้าประตูจากฝ่ายหน้า ที่จะเข้าไปฝ่ายใน ถ้าเป็นหนังฝรั่ง เราก็จะนึกภาพโรแมนติก ได้บ้าง แต่ สำหรับสังคมไทย ในยุค ร.5 ทำยังไง ก็นึกภาพของ แม่พลอย ตอนที่ตามเสด็จ เสด็จมาที่นี่ ไม่ออก จริง ๆ ครับ


เช้า ยัน เย็น ที่บางปะอิน (ตอนถัดไป 2/3) คลิก คลิก

เช้า ยัน เย็น ที่บางปะอิน (ตอนจบ 3/3) คลิก คลิก


รีวิวอื่น ๆ ของ เป้ใบ รองเท้าคู่

Booking.com

หน้าแรก | ท่องเที่ยวใน กทม. | ท่องเที่ยวในภาคเหนือ | ท่องเที่ยวในภาคกลาง | ท่องเที่ยวในภาคอีสาน | ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก | ท่องเที่ยวในภาคใต้ | ลงโฆษณา | ติดต่อเรา